นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บทนำ

    บริษัท กลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช จํากัด และบริษัทในเครือ (รวมเรียกว่า “บริษัท”) ตระหนักและเคารพ ในความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ (“ผู้ใช้บริการ หรือ ท่าน”) บริษัทมีความรับผิดชอบในการ รักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท และมุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลด้วยวิธีการที่มั่นคง ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ โดยบริษัทได้คํานึงถึงความสําคัญของความเป็นส่วนตัวของท่านจึงได้จัดทํานโยบายการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”) ซึ่ง นโยบายได้ระบุรายละเอียดในการประมวลผล การเก็บรวบรวม ใช้ จัดการ แบ่งปัน และคุ้มครองข้อมูลธุรกิจ และข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่ง ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกําหนด และเงื่อนไขการ ให้บริการ

  2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

      นโยบายฉบับนี้บังคับใช้กับข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรืออาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ซึ่งการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ เผยแพร่ ข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ขอบเขตและวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนดเท่านั้น ทั้งนี้ก่อนการดำเนินการดังกล่าวบริษัทจะให้เจ้าของข้อมูลรับรู้ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อความสั้น หรือตามแบบวิธีการของบริษัท โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บมีรายละเอียดดัง

    1. ในการลงทะเบียนเว็บไซต์ www.wewyn.com หรือ แอปพลิเคชัน WEMO by WEWYN เก็บ ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จําเป็นของผู้ใช้บริการได้แก่ ชื่อ (Name) นามสกุล (Surname) อีเมล์ (E-mail) หรือ หมายเลขโทรศัพท์ (Telephone Number) เป็นต้น

    2. ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ ที่ใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน

    3. กรณีการชําระเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ สําหรับค่าสมัครใช้บริการ บริษัทไม่มีนโยบายเก็บ ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตไม่ว่ากรณีใด ๆ ข้อมูลบัตรเครดิตจะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของบริษัทผู้ให้บริการ Payment Gateway

    4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้บริษัทเมื่อท่านโต้ตอบกับบริษัท รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงการเข้าร่วม กิจกรรม การแข่งขัน การชิงโชค การลงทะเบียนต่าง ๆ การเข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายสินค้า การทําแบบ สํารวจ การประเมินความพึงพอใจ การทําแบบสอบถาม การส่งข้อเสนอแนะความเห็นในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

    5. ข้อมูลการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางธุรกิจจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลรัฐบาล และหน่วยงาน ทางวิชาชีพ สื่อ และเอกสารเผยแพร่ทางธุรกิจ

    6. ที่อยู่ไอพี (IP Address) พิกัดทางภูมิศาสตร์ (Geolocation) และการแสดงความเห็นการ ซักถาม การโต้ตอบในสื่อสังคมออนไลน์

    7. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องทางธุรกิจ เช่น ช่องทางการติดต่อส่วนตัวที่มิได้ใช้ติดต่อทางธุรกิจ ผ่านตัวแทน พนักงาน ผู้ถือหุ้น กรรมการ และกรรมการผู้มีอํานาจของบริษัท

  3. ข้อมูลระบุตัวบุคคลที่มีความอ่อนไหว

    1. บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลระบุตัวบุคคลที่มีความอ่อนไหวอาทิเช่นเชื้อชาติสัญชาติเพศ ศาสนา ปรัชญา ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลชีวภาพ ทุพพลภาพ ความพิการ อัตลักษณ์ เพื่อการให้บริการบางรูปแบบ เมื่อ ท่านสมัครใจให้ข้อมูล โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่จํากัดและตามที่ได้รับอนุญาตให้เก็บรวบรวมข้อมูล เท่านั้น และบริษัทจะดําเนินขั้นตอนตามสมควรในทางการค้า เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว อย่างเพียงพอ

    2. บริษัทจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเกี่ยวกับลักษณะทางพันธุกรรม พฤติกรรมทาง เพศ หรือข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทําให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็น ธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด เว้นแต่ (1) ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากท่าน (2) เป็นกรณีที่ กฎหมายกําหนด (3) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทําได้ในเวลานั้น (4) เป็นไป เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านและผู้ใช้บริการท่านอื่น (5) เพื่อประโยชน์แก่การ สอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล (6) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการ จัดทําสถิติ

  4. การให้ความยินยอม

      บริษัทจะเก็บรวบรวม นําไปใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น โดยการให้ความยินยอมสามารถทําได้ทั้งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตามบริษัท อาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเกี่ยวกับความสนใจ และบริการที่ท่านใช้โดยการดําเนินการดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทําการเก็บรวบรวม เว้นแต่

    1. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่า ด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและ อาญา เป็นต้น

    2. เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

    3. เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทําได้ในเวลานั้น

    4. เป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท

    5. เป็นการจําเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

    6. เป็นการจําเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ใน ดําเนินการตามคําขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทําสัญญานั้น

    7. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทําเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อ ประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทําสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

  5. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทรวบรวมด้วยวิธีอัตโนมัติ

      บริษัทอาจใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ และ/ หรือแอปพลิเคชัน ผ่านคอมพิวเตอร์ และ/หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งเทคโนโลยีอัตโนมัตินี้อาจรวมถึงคุกกี้ เว็บบีคอน พิกเซลแท็ก และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน ทั้งนี้ คุกกี้และเทคโนโลยีอื่น ๆ มีรายละเอียด ตามด้านล่าง

    1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้ผ่านทางเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน ของผลิตภัณฑ์ รวมถึง ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ การใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Handle)

    2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมในการทำกิจกรรมทางการตลาด บนเว็บไซต์อื่น ๆ หรือบนแอปพลิเคชันหรือสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อเข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายหรือแคมเปญต่าง ๆ หรือรายการอื่นในทำนองเดียวกัน เพื่อจัดทำประวัติ

    3. ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติผ่านการติดตามตรวจสอบทางระบบคอมพิวเตอร์ ได้แก่ ที่อยู่ไอพี (IP Address) เบราว์เซอร์ที่ใช้งาน หรือระบบปฏิบัติการ หน้าเว็บไซต์ที่เข้าชม และเว็บไซต์ต้นทางที่ผู้เข้าชมเชื่อมโยงมาที่เว็บไซต์ และ

    4. ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่แน่นอน รวมถึงข้อมูลพิกัดทางภูมิศาสตร์แบบเรียลไทม์ (Real-Time) จากอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือคอมพิวเตอร์ และ บริการที่บอกตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ตามพื้นที่ (Location-Based Service) อาจใช้สัญญาณจีพีเอส (GPS) สัญญาณบลูทูธ (Bluetooth) และที่อยู่ไอพี (IP Address) ร่วมกับจุดบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายแบบสาธารณะ (Wi-Fi Hotspot) และตำแหน่งเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cell Tower) และเทคโนโลยีอื่น เพื่อกำหนดตำแหน่งโดยประมาณของอุปกรณ์ (ในกรณีที่สามารถกระทำได้)

  6. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

      บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลนี้กับบุคคลที่สาม คู่ค้า หรือพันธมิตร ที่เชื่อถือได้ (“คู่ค้า”) เพื่อนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ และตามที่ได้รับอนุญาต รายละเอียด ดังต่อไปนี้

    1. การให้บริการเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชัน

      1. บริษัท เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูล เพื่อให้บริการเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือแอปพลิเคชัน วิเคราะห์ทิศทางเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และบริการต่าง ๆ และเพิ่มความถูกต้องแม่นยำของชุดข้อมูลธุรกิจของบริษัท ตลอดจนช่วยให้บริษัท สามารถจับคู่ที่อยู่ไอพี (IP Address) กับข้อมูลติดต่อทางธุรกิจได้

      2. บริษัท วิเคราะห์ข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชัน ของบริษัท และจับคู่ข้อมูล ธุรกิจจากฐานข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัท และข้อมูลที่ได้รับจากบุคคลที่สามกับข้อมูลดังกล่าว เพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับประเภทธุรกิจต่าง ๆ ที่เข้าชมเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชัน ของบริษัท และตัวเลือกเบราว์เซอร์ที่นิยมใช้ ของธุรกิจดังกล่าวบนเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน และธุรกิจของบริษัท อย่างต่อเนื่อง

      3. บริษัทอาจนำข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชัน ทั้งหมดมาใช้กำหนดรูปแบบการ ใช้งาน หรือความสนใจของ ผู้เข้าชมเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน และผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนทางเทคนิคหรือความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และระบบคอมพิวเตอร์หรือเพื่อตรวจสอบการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาต เพื่อตอบคำถามจากท่าน เพื่อการวิจัย ตลาด และเพื่อปรับปรุงรูปแบบและฟังก์ชันของผลิตภัณฑ์

    2. วัตถุประสงค์ทางการตลาด

        บริษัท ใช้ข้อมูลที่ได้มาจากการวิเคราะห์ ซึ่งอาจใช้ร่วมกับข้อมูลเชิงพฤติกรรมที่ไม่สามารถระบุตัว บุคคล ซึ่งได้รับข้อมูลมาจากบุคคลที่สาม เพื่อกำหนดรูปแบบ และปรับปรุงกิจกรรมทางการตลาดโดยทั่วไปของ บริษัท ให้ดียิ่งขึ้น และในกรณีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้ทำได้บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

      1. เพื่อรวบรวมการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์และบริการที่มีการเข้าถึงโดยท่าน เพื่อกำหนดประเภทสินค้า และบริการที่ท่านประสงค์ที่จะซื้อ เพื่อปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ส่งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และนำเสนอการ บริการที่ท่านอาจสนใจ รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการแก่ท่าน

      2. เพื่อดำเนินการตามคำสั่งซื้อ ชำระเงิน และการทำธุรกรรมอื่น ๆ บนเว็บไซต์ และ/หรือแอป พลิเคชัน

      3. เพื่อจัดกิจกรรมชิงโชค ของรางวัลแคมเปญ รวมถึงการแข่งขันต่าง ๆ

      4. เพื่อส่งโฆษณาประชาสัมพันธ์ คูปอง ข่าวสาร และข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับโปรโมชั่น หรือกิจกรรม พิเศษแก่ท่านโดยตรงไปยังท่านบนเว็บไซต์ และ/หรือแอปพลิเคชัน โดยท่านอาจเลือกที่จะไม่รับข้อความโฆษณา บางประเภทได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้ไว้

      5. เพื่อการทำวิจัย หรือวิเคราะห์กลยุทธ์ ในการพัฒนา ปรับปรุง ฟังก์ชันต่าง ๆ บนเว็บไซต์ และหรือแอปพลิเคชัน

      6. เพื่อการติดต่อสื่อสารทางการตลาดที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัท รวมถึงพันธมิตร ของบริษัท และการใช้ข้อมูลในเชิงพาณิชย์ที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย

      7. เพื่อจับคู่กับแหล่งข้อมูลภาครัฐและภาคเอกชน และจัดทำชุดข้อมูลโดยไม่เปิดเผยตัวบุคคล (ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ได้แก่ ข้อมูลประชากร ข้อมูลเชิงพฤติกรรม และข้อมูลทางเทคนิคที่สรุปมาจาก ข้อมูลพื้นฐาน) เพื่อการใช้ประโยชน์ของบริษัท และ/หรือบุคคลที่สาม

    3. วัตถุประสงค์ทางสถิติ

      บริษัท รวบรวมข้อมูลเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับธุรกรรมออนไลน์และออฟไลน์ และข้อมูลทางทะเบียน สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลภายใน เพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติเท่านั้น ซึ่งจะไม่ถูกรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จัด ให้แก่ท่าน

  7. การแบ่งปันและโอนข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับท่านที่บริษัทจัดเก็บในปัจจุบัน และที่จะได้จัดเก็บในอนาคต ให้แก่คู่ค้า บุคคล หรือ นิติบุคคลอื่น ภายในขอบเขตตามที่ระบุไว้ ดังนี้

    1. บริษัท มีการแบ่งปันข้อมูลให้กับผู้รับข้อมูล เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดย บริษัท จะกำหนดเงื่อนไขตามสัญญาให้ผู้รับข้อมูลดังกล่าวใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์สำหรับการเปิดเผยเท่านั้น และผู้รับข้อมูลจะต้องทำลาย หรือส่งข้อมูลดังกล่าวคืนเมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวอีกต่อไป

    2. บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลตามที่ได้รับการร้องขอ ตามความเหมาะสม และเป็นไปตาม กฎหมาย ในกรณีที่บริษัท ถูกซื้อกิจการ หรือขายกิจการบางส่วนหรือทั้งหมด ข้อมูลที่บริษัท เก็บรวบรวมไว้จะถือ เป็นสินทรัพย์ที่สามารถโอนให้แก่ผู้ซื้อกิจการได

    3. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่าน ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ตามคำสั่งศาล หมาย ศาล กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย การไต่สวนโดยหน่วยงานกำกับดูแล หรือกรณีอื่นตามที่กฎหมายกำหนดได้ นอกจากนี้ บริษัท อาจได้รับคำร้องขอ อาทิ คำสั่งศาล หมายศาล กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย จากหน่วยงาน ราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ และในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผย ข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย คำสั่ง แนวทาง หรือการร้องขอใด ๆ จากหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตาม กฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มี ความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้ของบริษัท โดยไม่มีการขออนุญาตจากท่าน เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการบังคับใช้กฎหมาย ในการดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการ (ก) เพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ประโยชน์สาธารณะ หรือการบังคับใช้กฎหมาย หรือ (ข) ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ของทางราชการ หรือคำพิพากษาคดีที่กำหนดหน้าที่ หรือการอนุญาตไว้โดยชัดแจ้ง

    4. บริษัทอาจปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การโอนข้อมูลระหว่างประเทศ โดยเข้าทำข้อสัญญา มาตรฐานหรือใช้กลไกอื่นที่พึงมีตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่ใช้บังคับ และบริษัทอาจอาศัยสัญญาการ โอนข้อมูล หรือกลไกอื่นที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลทั่วโลก

    5. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่คู่ค้า บุคคลภายนอกที่บริษัทให้บริการ หรือในนามของบริษัท รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งซื้อของท่าน การประมวลผลการชำระเงิน การวิเคราะห์ข้อมูล การจัดโปรโมชั่น การแข่งขัน การจับรางวัลและการชิงโชค การทำวิจัยและวิเคราะห์ทางการตลาด หรือการสำรวจ ความพึงพอใจของท่าน และวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ซึ่งบุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ มีหน้าที่ ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเช่นเดียวกันกับบริษัท (1) บริษัทในกลุ่มบริษัท กลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช จำกัด (2) ผู้ให้บริการที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามของบริษัท (3) ลูกจ้างและผู้รับจ้างที่มีหน้าที่ในการ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (4) ลูกค้าหรือผู้ใช้งานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูล สาธารณะ และข้อมูลได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละราย (5) คู่ค้าในเครือข่ายทั่วโลก และพันธมิตรทาง ธุรกิจของบริษัท (Business Partners) ที่นำข้อมูลของบริษัท ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการ (6) ผู้ตรวจสอบ บัญชี ทนายความ และที่ปรึกษาด้านต่าง ๆ ของบริษัท (7) ผู้ให้บริการและผู้รับจ้างงานสนับสนุนช่วยเหลือ (8) หน่วยงานราชการ รวมถึงหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล พนักงานสอบสวน อัยการ เป็นต้น (9) บุคคลที่สามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ขอให้บริษัท แบ่งปันข้อมูล

  8. หลักกฎหมายที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล

      บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานการประมวลผล ดังต่อไปนี้

    1. ฐานความยินยอม (Consent) : ท่านให้ความยินยอมแก่บริษัท ในการเก็บรวบรวม ใช้ จัดการ รักษา และเปิดเผยข้อมูลของตนได้ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) และข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ โดยบริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านในการนำเสนอสินค้า บริการ หรือโฆษณาที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ตรงกับความสนใจกับท่าน และให้ท่านได้รับ ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้น และสอดคล้องกับความต้องการของท่าน รวมถึงเพื่อให้ท่านได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่าง ๆ ทั้งนี้ ไม่ว่าข้อมูลดังกล่าวจะได้มาจากการให้ความยินยอมแก่ บริษัทเอง หรือแก่บริษัทในกลุ่มคู่ค้าของบริษัท หรือแก่บุคคลที่บริษัทเป็นตัวแทน นายหน้า ผู้จำหน่าย หรือแก่ พันธมิตรทางธุรกิจ หรือแก่บุคคลภายนอกที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท ก็ตาม

    2. ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation) : บริษัทอาจต้องนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านเพื่อการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายล้มละลาย และ กฎหมายอื่น ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งของในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบ ที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว โดยบริษัทอาจนำส่งข้อมูลให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตาม กฎหมายในการเรียกข้อมูลที่บริษัทครองครองอยู่ได้ เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น

    3. ฐานจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายโดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้ อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest) : ท่านให้ความยินยอมแก่บริษัท ในการประมวลผลข้อมูลที่เป็นไปเพื่อ ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยบริษัทอาจนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อการประมวลผล การวิจัย หรือการจัดทำสถิติซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของบริษัท การปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการ การจัดทำข่าวสารประชาสัมพันธ์ การใช้คุกกี้ที่จำเป็นต่อการเข้าชมเว็บไซต์ การบันทึกเสียงทาง Call Center การ จัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าของบริษัทด้วยการแจ้งเตือนหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทซึ่งเป็นประโยชน์กับท่าน การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการส่งต่อไปยังบริษัทในเครือ การทำให้ข้อมูลส่วน บุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data) การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิด การกระทำการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สันทนาการ การชิงโชค การแข่งขัน หรือออกบูธ การลงทะเบียน เป็นต้น

  9. การใช้คุกกี้

    บริษัทใช้คุกกี้เพื่อเก็บข้อมูลการล็อกอิน (Login) หรือข้อมูลอื่นในคอมพิวเตอร์ของท่านเมื่อท่านเข้า ชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ของบริษัท การตลาด และเนื้อหาในเว็บไซต์ และเพื่อให้บริการต่าง ๆ เป็นไปตามความพึงใจและความสนใจของท่าน โดยคุกกี้ทำให้บริษัท สามารถวิเคราะห์กิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับ เว็บไซต์ของบริษัทได้ อาทิ วันที่ เวลา และหน้าเว็บไซต์ที่เข้าชม ตลอดจนเว็บไซต์ต้นทางที่ท่าน หรือผู้เข้าชมราย ใหม่เชื่อมโยงมาที่เว็บไซต์ ป้องกันและตรวจจับการดำเนินการที่ต้องห้ามหรือไม่ได้รับอนุญาต สำหรับบริการบาง ประเภท บริษัทเสนอทางเลือกให้ท่านในการเก็บข้อมูลรหัสผู้ใช้หรือรหัสผ่านไว้ในคุกกี้ได้โดยที่ท่านไม่จำเป็นต้องใส่ ข้อมูลดังกล่าวอีกเมื่อกลับมายังเว็บไซต์ของบริษัท ในภายหลัง บริษัทอาจใช้แฟลชคุกกี้ (Flash Cookie) เพื่อแสดง เนื้อหาตามสิ่งที่ท่านดูบนเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อกำหนดลักษณะเฉพาะตัวในการเข้าใช้งาน ทั้งนี้เมื่อท่านเลือก ผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ๆ ของบริษัท ลงทะเบียนรับข่าวสารหรือการแจ้งทางอีเมล กรอกข้อมูลแบบฟอร์ม ออนไลน์ หรือกรอกแบบสอบถาม บริษัท อาจพยายามระบุเบราว์เซอร์ของท่าน และนำข้อมูลจากคุกกี้ และข้อมูล อื่นที่เก็บรวบรวมออนไลน์ไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท

  10. โฆษณาของบุคคลที่สาม

    บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก ทั้งภายในประเทศ หรือ ต่างประเทศ เท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และฐานในการประมวลผลที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้ เท่านั้น โดยบริษัทมีการใช้บริษัทโฆษณาอื่นเพื่อแสดงแถบโฆษณาของบริษัท บนเว็บไซต์ การใช้คุกกี้ของบุคคลที่ สาม และเทคโนโลยีติดตามตรวจสอบอื่นไม่อยู่ภายใต้บังคับตามนโยบายฉบับนี้ และบริษัทไม่มีสิทธิเข้าถึง หรือมี อำนาจควบคุมการดำเนินการต่าง ๆ ของบุคคลที่สามแต่อย่างใด บุคคลที่สามอาจมีการใช้คุกกี้ในคอมพิวเตอร์ของ ท่าน หรือใช้เว็บบีคอน (Web Beacon) เพื่อเข้าถึงคุกกี้ที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ดังกล่าว และติดตามตรวจสอบการ ใช้งานออนไลน์และรูปแบบพฤติกรรมต่าง ๆ บริษัทเหล่านี้อาจใช้ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อ การโฆษณาบนเว็บไซต์ เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่อาจเป็นที่สนใจของท่าน และจากนั้นคัดเลือกเนื้อหาโฆษณาให้ ตรงตามความต้องการของท่านเมื่อเข้าชมเว็บไซต์อื่น

    1. เว็บบีคอน (Web Beacons)

      ในบางกรณี บริษัท มีการใช้เว็บบีคอน เพื่อรวบรวมสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท บางเว็บไซต์ของบริษัท ใช้เว็บบีคอนร่วมกับคุกกี้ อีเมลของบริษัท บางฉบับอาจมีระบบติดตามที่เรียกว่าพิกเซล (Pixel) หรือรหัส (Code) เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้อีเมลและข้อมูลการวิเคราะห์ บริษัทอาจ แบ่งปันการใช้ข้อมูลเข้ารหัสดังกล่าวกับบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับอีเมลได้

    2. ตัวเลือกเกี่ยวกับคุกกี้

      ท่านอาจลบการตั้งค่าเบราว์เซอร์เพื่อยกเลิกการใช้คุกกี้ และยังคงใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ต่อไปได้ ทั้งนี้ การเข้าถึงและใช้งานเว็บไซต์บางลักษณะอาจช้าลงและได้รับความสะดวกน้อยลง

    3. การตลาดทางอีเมล ทางข้อความ หรือทางโทรศัพท์

      การให้ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์แก่บริษัท ถือเป็นการให้ความยินยอมและอนุญาตโดยชัดแจ้งให้ สามารถติดต่อท่านผู้ให้ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์นั้นได้ด้วยวิธีการโดยชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงการใช้ระบบติดต่อ ทางโทรศัพท์อัตโนมัติ และหรือที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ / การส่งข้อความ และการส่งข้อความที่บันทึกไว้ ล่วงหน้า และเทคโนโลยีอื่นในการติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อวัตถุประสงค์โดยชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนการเสนอ ขายผลิตภัณฑ์ และบริการต่าง ๆ ของบุคคลที่สาม

      ทั้งนี้ ในการยกเลิกการรับอีเมลส่งเสริมการขาย ข่าวสาร และข้อมูลล่าสุดของบริษัท เกี่ยวกับ คุณสมบัติใหม่ ผลิตภัณฑ์ และบริการต่าง ๆ หรือการทำการตลาดทางโทรศัพท์ ท่านสามารถแจ้งและติดต่อบริษัท ผ่านช่องทางที่บริษัทกำหนดหรืออาจปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัท

    4. การเสนอขายสินค้าโดยบุคคลที่สาม

      หากข้อมูลติดต่อทางธุรกิจอยู่ในสารบบทางการตลาดของบุคคลที่สามแล้ว กรณีที่ท่านต้องการ นำข้อมูลติดต่อทางธุรกิจออกจากฐานข้อมูลติดต่อท่านกับบุคคลที่สาม ท่านอาจต้องส่งคำร้องขอให้ลบข้อมูล ดังกล่าวไปยังบุคคลที่สามรายนั้นโดยตรง

  11. การเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับคู่ค้าหรือหน่วยงานอื่น

    1. บริษัทอาจเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับคู่ค้าหรือหน่วยงานอื่น โดยบริษัทจะขอความ ยินยอมจากท่านก่อน ที่จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดอย่างน้อย (1) คู่ค้าหรือหน่วยงานที่ จะทำการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล (2) วัตถุประสงค์ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคล (3) วิธีการในการเชื่อมโยง ข้อมูลส่วนบุคคล (4) ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการเชื่อมโยง (5) บุคคลผู้มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

    2. ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับคู่ค้าหรือหน่วยงานอื่น บริษัทจะแสดงชื่อผู้เก็บ รวบรวม บุคคลผู้มีสิทธิในข้อมูลที่ได้มีการเก็บรวบรวมอย่างชัดเจน เพื่อให้ท่านได้รับทราบ นอกจากนี้ บริษัทจะ จัดทำบันทึกการเชื่อมโยงข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงการเชื่อมโยงข้อมูล บริษัทจะแจ้งให้ ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และขอความยินยอมก่อนการดำเนินการ

  12. สิทธิในการได้รับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    1. 1บริษัท เคารพสิทธิส่วนบุคคลของท่าน และเปิดโอกาสให้ท่านสามารถเลือกวิธีการควบคุม หรือวิธีการที่บริษัท ใช้ติดต่อท่าน โดยบริษัทจะปฏิบัติตามที่ท่านได้ร้องขอ เพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส และเพื่อ คุณภาพของข้อมูล และความถูกต้องของข้อมูล ท่านมี(1) สิทธิในการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย (2) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (3) สิทธิในการคัดค้านการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด (5) สิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน (6) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง และ (7) สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียนต่อ หน่วยงานกำกับดูแลในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัทหรือเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

    2. บุคคลอาจขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง เพื่อแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลส่วน บุคคลที่ได้ให้ไว้กับบริษัท โดยจัดทำคำขอเป็นลายลักษณ์อักษรตามที่บริษัทกำหนด และส่งมายัง info@wewyn.comและเพื่อป้องกันการครอบครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฎหมายหรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ส่วนบุคคลโดยบุคคลที่สาม บริษัทจะสอบถามเพื่อยืนยันตัวตนของบุคคลก่อนจึงจะสามารถดำเนินการตามคำขอ นั้น ๆ ได้ ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งกลับทุกคำขอภายในระยะเวลาอันสมควร อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ บริษัท อาจปฏิเสธคำขอนั้น เช่น กรณีที่ข้อมูลดังกล่าวมีการอ้างถึงบุคคลอื่นหรือไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องด้วยเหตุผล ทางด้านกฎหมายหรือด้านความปลอดภัย

    3. การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์ อักษร โดยหากท่านประสงค์ที่จะใช้สิทธิใด ๆ ดังกล่าวข้างต้น โปรดติดต่อบริษัท โดยบริษัทจะตอบกลับมายังท่าน ภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

      ทั้งนี้ บริษัทอาจคิดค่าธรรมเนียมสำหรับบริการนี้ขึ้นกับดุลพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว โดย บริษัทจะใช้ความพยายามทุกวิถีทาง เพื่อแก้ไขข้อร้องเรียนหรือปัญหาต่าง ๆ โดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่างไรก็ตาม อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถ ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

    4. บริษัทอาจปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำร้องขอของท่านได้ หากบริษัท หรือคู่ค้า มีความ จำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลต่อไปเพื่อการกระทำดังต่อไปนี้

      1. เพื่อทำรายการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เพื่อการจัดหาสินค้าหรือบริการตามที่ท่านร้องขอ หรือดำเนินการตามสมควรภายในขอบเขตความสัมพันธ์ทาง ธุรกิจระหว่างบริษัท กับท่าน หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัท กับท่าน
      2. เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ป้องกันการ กลั่นแกล้ง การฉ้อฉล การฉ้อโกง หรือการกระทำผิดกฎหมาย หรือฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ต้องรับผิดชอบต่อ การกระทำดังกล่าว

      3. เพื่อตรวจสอบการทำงานของผลิตภัณฑ์ เพื่อหาและแก้ไขข้อผิดพลาดที่ทำให้ไม่ สามารถใช้งานได้ตามปกติ

      4. เพื่อทำการศึกษาวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ เชิงประวัติ หรือเชิงสถิติโดยทั่วไป หรือ โดยผู้ชำนาญการ เพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยคำนึงถึงจรรยาบรรณและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เมื่อการลบข้อมูลนั้นจะทำให้ไม่สามารถบรรลุหรือขัดขวางการบรรลุผลสำเร็จในการ ศึกษาวิจัยอย่างมีนัยสำคัญ หากท่านได้ให้ความยินยอมแล้วก่อนหน้านี้

      5. เพื่อใช้เป็นการภายในตามสมควรโดยสอดคล้องกับความคาดหมายของท่านที่มี ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัท และสอดคล้องกับบริบทที่ท่านได้ให้ข้อมูลดังกล่าวไว้แต่แรก และ

      6. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

  13. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล

    1. เว็บไซต www.wewyn.com ได้ใช้ SSL ที่ได้มาตรฐานในการเข้ารหัส เพื่อความ ปลอดภัยของข้อมูล หากถูกโจรกรรมระหว่างเส้นทาง จะต้องใช้เทคโนโลยีในการถอดรหัสก่อน จึงจะอ่านข้อมูลได้ ทั้งนี้บริษัทจะใช้มาตรการทางกายภาพและทางเทคนิคที่เหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

    2. นโยบายและขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ เพื่อการจัดการข้อมูลอย่างปลอดภัย และป้องกันการ เข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตที่บริษัท ดำเนินการมีดังนี้

    3. กำหนดนโยบายและขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ เพื่อจัดการข้อมูลอย่างปลอดภัย และ ตามที่อาจกำหนดเพิ่มเติมในสัญญาระหว่างบริษัท กับท่าน

    4. จำกัดสิทธิลูกจ้างในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

    5. ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยใช้การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบตัวตนและเทคโนโลยีการตรวจจับไวรัสตามความจำเป็น

    6. กำหนดให้คู่ค้าที่ทำธุรกิจกับบริษัท ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมายและ ระเบียบต่าง ๆ ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลติดตามตรวจสอบเว็บไซต์ของบริษัท ผ่านหน่วยงานที่มีความ เชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยแบบออนไลน

    7. ตรวจสอบประวัติลูกจ้าง และจัดให้มีการฝึกอบรมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลแก่คณะทำงานของบริษัท และ

    8. ประเมินผลแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การจัดการข้อมูล และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของบริษัทเป็นประจำ

  14. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

    บริษัทจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อดำเนินการตามคำขอของท่าน โดย บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ภายใต้ระยะเวลา ดังนี

    1. กรณีที่ท่านให้ข้อมูลแก่บริษัทในฐานะสมาชิก บริษัทจะเก็บข้อมูลท่านไว้ตราบเท่าที่ท่าน เป็นสมาชิกของบริษัท

    2. กรณีที่ท่านให้ข้อมูลแก่บริษัทในฐานะที่ท่านเป็นลูกค้า ผู้ใช้บริการ บริษัทจะเก็บข้อมูล ท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริการแก่ท่าน และจะเก็บต่อไปอีก 10 (สิบ) ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดการให้บริการ

    3. กรณีที่ท่านให้ข้อมูลแก่บริษัทในฐานะที่ท่านเป็นคู่สัญญา บริษัทจะเก็บข้อมูลท่านไว้ ตราบเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา และจะเก็บต่อไปอีกตามอายุความ 10 (สิบ) ปี นับแต่วันที่สัญญา สิ้นสุด

    4. กรณีการเข้าชมเว็บไซต์ บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านไว้ 10 (สิบ) ปี นับแต่ที่ท่าน เข้าใช้บริการบนเว็บไซต์

    5. กรณีข้อมูลบนแอปพลิเคชัน บริษัทจะเก็บไว้จนกว่าท่านจะลบบัญชี

    6. เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามข้อ 14.1-14.5 โดยบริษัทจะทำตามขั้นตอนการลบเพื่อดูแลให้มีการ นำข้อมูลของท่านทั้งหมดออกจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทอย่างปลอดภัยหรือเก็บรักษาไว้ในรูปแบบที่ทำให้ไม่สามารถ ระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้เท่านั้น อย่างไรก็ตามบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลบางอย่างไว้นานกว่าที่ระบุ ข้างต้น หากจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจหรือโดยชอบตามกฎหมาย เช่น เพื่อความปลอดภัย เพื่อการป้องกัน การละเมิดหรือการประพฤติมิชอบ หรือเพื่อการเก็บบันทึกทางการเงิน

  15. ช่องทางการติดต่อบริษัท

    หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียน หรือส่งอีเมลมาที่ info@wewyn.com หรือที่อยู่ของบริษัท สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 27 ซอยเจริญนคร 14 ถนนเจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

  16. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบาย

    หากบริษัท มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญเกี่ยวกับแนวปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล บริษัทจะปรับปรุงและแก้ไขนโยบายฉบับนี้ และแสดงบนเว็บไซต์www.wewyn.com หรือ บนแอปพลิเค ชัน WEMO by WEWYN เพื่อให้ท่านได้ทราบถึงวิธีการที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ จัดการ เปิดเผย และคุ้มครอง ข้อมูล

  17. วันที่แก้ไขปรับปรุงล่าสุด: 25 สิงหาคม 2563